วันศุกร์ที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2558

ประวัติพระครูพรหมวุฒาจารย์



ประวัติพระครูพรหมวุฒาจารย์ (หลวงปู่พรหม)

นามเดิม พรม แก้วศรี ถือกำเนิดที่บ้านคูย่างควาย หมู่ที่ ๘ ต.น้ำขาว อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อปี พ.ศ.๒๔๓๖ ปีมะเส็ง บิดาชื่อนายเพชรแก้ว มารดาชื่อนางเรือง แก้วศรี มีพี่น้องร่วม ๖ คน

ตอนปฐมวัยไม่มีโรงเรียน ได้ศึกษาภาษาไทยกับพระภิกษุที่วัดน้ำขาวใน (วัดตก) จนอ่านออกและเขียนได้คล่อง กระทั่งอายุ ๑๘ ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดมัชฌิมวาส(วัดกลาง) สงขลา พระครูวิสุทธิโมลี เจ้าอาวาสวัดมัชฌิมวาส(วัดกลาง) เป็นพระอุปัชฌาย์ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปีบริบูรณ์ ได้อุปสมบทที่วัดมัชฌิมวาส (วัดกลาง) อีกครั้ง โดยมีพระอโนมคุณมุนี เจ้าคณะจังหวัดสงขลาเป็นพระอุปัชฌาย์ ภายหลังได้กลับมาจำพรรษา ณ วัดน้ำขาวใน (วัดตก) ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดน้ำขาวใน (วัดตก) และรับเป็นผู้อุปถัมภ์โรงเรียนประชาบาลวัดน้ำขาวใน เมื่อ พ.ศ.๒๔๖๖

ปี พ.ศ.๒๕๐๒ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระครูชั้นสัญญาบัตร “พระครูพรหมวุฒาจารย์” ตำแหน่งเจ้าคณะอำเภอจะนะ-เทพา ครองตำแหน่งนี้อยู่ราว ๑๐ ปี ก็ถึงแก่มรณภาพ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๑๒ เวลา ๑๘.๑๐ น.

พระครูพรหมวุฒาจารย์ (หลวงปู่พรหม) เป็นพระนักปฏิบัติและนักพัฒนา ท่านได้อบรมสั่งสอนภิกษุสามเณรทั้งด้านศาสนกิจและอบรมฝึกหัดวิชาช่างไม้ด้วย ต่อมาท่านได้สร้างอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าที่คับแคบ ระยะเวลาสร้าง ๖ ปี เป็นผลงานชิ้นสุดท้าย และยังใช้เป็นที่ทำสังฆกรรมอยู่จนถึงปัจจุบัน

ในวันที่ ๑๖ มกราคม บรรดาศิษยานุศิษย์ร่วมกันจัดงานทำบุญอุทิศส่วนกุศล และรำลึกถึงวันคล้ายวันมรณภาพของท่านเป็นประจำทุกปี

เรื่องของความศักดิ์สิทธิ์และอภินิหาร เชื่อกันว่าบุคคลที่มีเหรียญของหลวงปู่พรหมไว้บูชาประจำตัวจะเกิดความปลอดภัยและแคล้วคลาดจากภยันตรายใด ๆ ดังที่เคยปรากฏให้เห็นเป็นประจักษ์ต่อบุคคลต่าง ๆ ทั้งในชุมชนน้ำขาวและทั่วไปมานับครั้งไม่ถ้วน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น